Header Ads

กรมปศุสัตว์จัดประกวดควายไทยชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว


        ****กรมปศุสัตว์จัดแถลงข่าวงานวันอนุรักษ์และพัฒนากระบือปลักไทย ประจำปี พ.ศ. 2568 ภายใต้หลัก "ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และการอนุรักษ์สายพันธุ์กระบือปลักไทย" เพื่อ "อนุรักษ์ สืบสาน รักษา ต่อยอด กระบือปลักไทย"****


วันอังคารที่ 7 มกราคม 2568 เวลา 15.00 น. นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ แถลงข่าวการจัดงานวันอนุรักษ์และพัฒนากระบือปลักไทย ประจำปี พ.ศ. 2568 ภายใต้หลัก "ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และการอนุรักษ์สายพันธุ์กระบือปลักไทย" พร้อมด้วยผู้บริหารกรมปศุสัตว์ สื่อมวลชน และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมฯ เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการจัดงานวันอนุรักษ์และพัฒนากระบือปลักไทย ประจำปี พ.ศ. 2568 ที่กำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 11 - 12 มกราคม 2568 ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาโคนม อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา โดยการแถลงข่าวได้มีการจัดแสดงกระบือปลักไทย จำนวน 2 ตัว ณ ลานเอนกประสงค์หน้าเสาธง หน้าตึกอำนวยการ กรมปศุสัตว์ พญาไท


นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า
ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ดำเนินโครงการอนุรักษ์และพัฒนากระบือไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาสายพันธุ์กระบือปลักไทยให้มีลักษณะดี มีคุณภาพ เพิ่มจำนวนกระบือ อันจะเป็นการเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร ส่งเสริมและอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นไทย โดยใช้วิถีชีวิตแบบตั้งเดิมที่นำกระบือไปใช้ประโยชน์ขขในการทำการเกษตร ต่อยอดการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ ภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และการอนุรักษ์สายพันธุ์กระบือปลักไทย


กรมปศุสัตว์ได้สนองพระราชดำริร่วมดำเนินโครงการอนุรักษ์และพัฒนากระบือไทย
โดยดำเนินการบริการผสมเทียมกระบือที่มีความพร้อมโดยโดยใช้น้ำเชื้อกระบือพ่อพันธุ์ชั้นดีของกรมปศุสัตว์ และสนับสนุนพ่อพันธุ์กระบือปลักไทยในการคุมฝูงและปรับปรุงสายพันธุ์ในฝูงกระบือของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ปัจจุบันมีกระบือตั้งท้องจากการผสมเทียมและใช้พ่อพันธุ์คุมฝูง จำนวนกว่า 360 ตัว และมีลูกกระบือเกิดใหม่มากกว่า 400 ตัว


สำหรับโครงการจัดงานวันอนุรักษ์และพัฒนากระบือปลักไทย ประจำปี พ.ศ. 2568 ที่กำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 11 - 12 มกราคม 2568 ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาโคนม อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
มีวัตถุประสงค์เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ทรงมีต่อพสกนิกร ชาวไทย ในด้านการพัฒนาการปศุสัตว์ เพื่อจัดประกวดแข่งขันกระบือปลักไทย ซึ่งเป็นการเผยแพร่องค์ความรู้ให้เกษตรกร และประชาชนผู้สนใจ ได้รู้จักการคัดเลือกกระบือปลักไทยพันธุ์ดีไว้ขยายพันธุ์ เพื่อเป็นเวทีพบปะแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการแสดงผลงานในการพัฒนาการผลิตกระบือปลักไทยตลอดห่วงโซ่การผลิตถึงการบริโภค ระหว่างหน่วยงานรัฐ องค์กรภาคเกษตรกร กลุ่มผู้ประกอบการ และองค์กรภาคเอกชน เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ให้เกษตรและประชาชนผู้สนใจด้านการจัดการ การเลี้ยงกระบือปลักไทย การปรับปรุงพันธุ์ การป้องกันโรคระบาด การพัฒนาด้านเทคโนโลยีอาหารสัตว์ และเทคโนโลยีการผลิตกระบือปลักไทย ที่มีคุณภาพ 


โดยมีกิจกรรมการจัดนิทรรศการ ประกอบด้วย 3 โซน

   - โซนที่ 1 นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ประกอบด้วยการดำเนินงานโครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตร ตามพระราชดำริ โครงการอนุรักษ์และพัฒนากระบือไทย ภายใต้ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน
   - โซนที่ 2 นิทรรศการวิชาการจากหน่วยงานภายใต้กรมปศุสัตว์ จำนวน 5 เรื่อง ได้แก่ การขึ้นทะเบียนกระบือปลักไทย การเลี้ยงดูกระบือปลักไทย อาหารสัตว์และพืชอาหารสัตว์สำหรับกระบือ การตรวจโครโมโซมฯ ในกระบือ การตรวจเร่งเนื้อแดงจากปัสสาวะกระบือ และโรคและการป้องกันที่สำคัญในกระบือ
   - โชนที่ 3 นิทรรศการของกลุ่มเกษตรกร/สหกรณ์ สมาคมฯ จำนวน 5 กลุ่ม การออกร้านสาธิตและจำหน่ายสินค้าของกองผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ นิทรรศการมีชีวิต การแสดงพ่อพันธุ์กระบือปลักไทยต้นแบบ กิจกรรมวิ่งควาย กิจกรรมสู่ขวัญควาย กิจกรรมการประกวดและแข่งขันประกวดกระบือปลักไทย 16 รุ่น
   1) กระบือปลักไทยดำ เพศผู้ รุ่นลูกกระบือ (Calf division) อายุ 10 - 18 เดือน
   2) กระบือปลักไทยดำ เพศเมีย รุ่นลูกกระบือ (Calf division) อายุ 10 - 18 เดือน
   3) กระบือปลักไทยดำ เพศผู้ รุ่นกระบือรุ่น (Intermediate division) อายุมากกว่า 18 - 24 เดือน
   4) กระบือปลักไทยดำ เพศเมีย รุ่นกระบือรุ่น (Intermediate division) อายุมากกว่า 18 - 24 เดือน
   5) กระบือปลักไทยดำ เพศผู้ รุ่นกระบือหนุ่มสาว (Junior division) อายุมากกว่า 24 - 36 เดือน
   6) กระบือปลักไทยดำ เพศเมีย รุ่นกระบือหนุ่มสาว (Junior division) อายุมากกว่า 24 - 36 เดือน
   7) กระบือปลักไทยดำ เพศผู้ รุ่นกระบือโตเต็มวัย (Senior division) อายุมากกว่า 366 - 48 เดือน
   8) กระบือปลักไทยดำ เพศเมีย รุ่นกระบือโตเต็มวัย (Senior divion) อายุมากกว่า 36 - 48 เดือน
   9) กระบือปลักไทยเผือก เพศผู้ รุ่นลูกกระบือ (Calf division) อายุ 10 - 18 เดือน
  10) กระบือปลักไทยเผือก เพศเมีย รุ่นลูกกระบือ (Calf division) อายุ 10 - 18 เดือน
  11) กระบือปลักไทยเผือก เพศผู้ รุ่นกระบือรุ่น (Intermediate division) อายุมากกว่า 18 - 24 เดือน
  12) กระบือปลักไทยเผือก เพศเมีย รุ่นกระบือรุ่น (Intermediate division) อายุมากกว่า 14 - 24 เดือน
  13) กระบือปลักไทยเผือก เพศผู้ รุ่นกระบือหนุ่มสาว (Junior division) อายุมากกว่า 24 - 36 เดือน
  14) กระบือปลักไทยเผือก เพศเมีย รุ่นกระบือหนุ่มสาว (Junior division) อายุมากกว่า 24 - 36 เดือน
  15) กระบือปลักไทยเผือก เพศผู้ รุ่นกระบือโดเต็มวัย (Senior division) อายุมากกว่า 36 - 48 เดือน
  16) กระบือปลักไทยเผือก เพศเมีย รุ่นกระบือโตเต็มวัย (Senior dision) อายุมากกว่า 366 - 48 เดือน

ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 3 ถ้าย
   1.ถ้วยรางวัลพระราชทานชนะเลิศยอดเยี่ยม Grand Champion กระบือปลักไทยเพศผู้ 1 รางวัล
   2.ถ้วยรางวัลพระราชทานชนะเลิศยอดเยี่ยม Grand Champion กระบือปลักไทยเพศเมีย 1 รางวัล
   3.ถ้วยรางวัลพระราชทานกระบือปลักไทยยอดเยี่ยม ประเภทการใช้ประโยชน์ทางการเกษตร 1 รางวัล

มีหลักเกณฑ์ และเงื่อนไข การนำกระบือเข้าประกวด มีข้อกำหนด ดังนี้
   1.ต้องมีเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ติดอยู่ที่ตัวกระบือแบบถาวร เช่น ติดเบอร์หูพลาสติก การสักเบอร์หูหรือมีการฝังไมโครชิฟ
   2.ต้องมีรูปร่างลักษณะตรงตามอัดลักษณ์ ลักษณะประจำพันธุ์ของกระบือปลักไทย ตามการขึ้นทะเบียนพันธุ์สัตว์ของกรมปศุสัตว์ "กระบือปลักไทย DLD BU 01/2023"
   3.ต้องมีหนังสือรับรองผลการตรวจโครโมโซม เพื่อยืนยันการเป็นกระบือปลักไทยทีมีใครโมโซมจำนวน 48 แท่ง หรือ 24 คู่ หรือกรณียังไม่มีหนังสือรับรองผลการตรวจโครโมโซม กระบือที่ส่งเข้าประกวดต้องได้รับการเจาะเลือดเพื่อส่งตรวจโครโมโซม
   4.กระบือที่ส่งเข้าประกวดต้องเกิดจากพ่อ-แม่พันธุ์ กระบือปลักไทย เท่านั้น


“กระบือที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ จะมีการเก็บรักษาพันธุกรรมกระบือปลักไทย (จำนวนไม่น้อยกว่า 500 โดส) น้ำเชื้อที่รีดแล้วถือว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของทางกรมปศุสัตว์ เพื่ออนุรักษ์ สืบสาน รักษา ต่อยอด กระบือปลักไทย ภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และการอนรักษ์สายพันธุ์กระบือปลักไทย และนำไปใช้ประโยชน์ในกิจกรรมของกรมปศุสัตว์ต่อไป” อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวในที่สุด

No comments

Powered by Blogger.